การดำเนินงานของกรมป่าไม้เพื่อสนองพระราชดำริ

การดำเนินงานของกรมป่าไม้เพื่อสนองพระราชดำริ
กรมป่าไม้ได้ดำเนินงานสนองพระราชดำริ โดยตระหนักถึงเป้าหมาย และวิธีการตามแนวพระราชดำริในเรื่อง การจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่เกี่ยวเนื่องสัมพันธ์ กับชีวิตความเป็นอยู่และประโยชน์สุขของราษฎร เริ่มตั้งแต่การพิจารณาปัจจัยแวดล้อม และสภาพปัญหาของทรัพยากรป่าไม้ ตลอดจนแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ จากพื้น ที่ต้นน้ำลำธารไปจนกระทั่งถึงปลายน้ำ



กล่าวโดยสรุป คือ การรักษาพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่ยังคงสภาพสมบูรณ์ให้ คงอยู่ให้ได้ จากนั้นให้ดำเนินการปลูกฟื้นฟูสภาพป่าทั่วไป และป่าต้นน้ำลำธาร เพื่อ เพิ่มพื้นที่ป่าให้มากที่สุดโดยเร็ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นและสมดุลธรรมชาติ ท้ายที่สุด การให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเริ่มประสานกันดำเนินงาน เพื่อเข้าแนะนำช่วยเหลือ ราษฎรที่จำเป็นต้องอาศัยและดำรงชีพอยู่ในบริเวณป่า ให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เพื่อจะ ได้เข้าใจและร่วมมือในการดูแลรักษาป่าไม้ กรมป่าไม้ได้ดำเนินการโครงการพัฒนาป่าไม้ อันเนื่องมาจากพระราช ดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครอบคลุมพื้นที่ทุกภูมิภาคหลายโครงการ

การดำเนินงานของกรมป่าไม้เพื่อสนองพระราชดำริ แบ่งออกได้ ดังนี้

1. ด้านอนุรักษ์ป่าไม้และสิ่งแวดล้อม
กรมป่าไม้ได้รับแนวพระราชดำริของพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมา ปฏิบัติในพื้นที่บริเวณต้นน้ำลำธาร ที่มีลำธารที่มีอยู่ทั่วประเทศ อาทิ

1) การสร้างฝายต้นน้ำลำธารอย่างง่ายแบบผสมผสาน โดยใช้งบประ มาณไม่มากนัก โดยสร้างขวางร่องน้ำลำธารลดหลั่นกันลงมา จากต้นน้ำไปจนถึงปลาย น้ำ เพื่อสกัดกั้นตะกอนและธาตุอาหารที่ปะปนมากับน้ำไหลบ่าหน้าดิน และเก็บกัก น้ำไว้ให้เกิดความชุ่มชื้นเป็นระยะเวลาที่ยาวนานมากขึ้น เป็นการช่วยยืดระยะเวลาการ มีน้ำในลำห้วยลำธารให้นานขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการปลูกฟื้นฟูสภาพป่า ตลอดจนการ เกษตรกรรมของราษฎรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

2) การนำหญ้าแฝกมาช่วยในการพัฒนาคุณภาพของน้ำและความชุ่ม ชื้นในดิน กรมป่าไม้ได้พิจารณานำแนวพระราชดำริดังกล่าว มาดำเนินการโดยจัดทำ โครงการพัฒนาและรณรงค์การใช้หญ้าแฝก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เริ่มปี พ.ศ. 2536 เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรเพาะหญ้าแฝก เพื่อนำไปปลูกในพื้นที่ต้นน้ำลำธารที่มี ความสูงชันและตามแนวร่องน้ำ เพื่อสะกัดกั้นปริมาณตะกอนที่จะถูกพัดพามา โดย น้ำฝนในรูปของน้ำไหลบ่าหน้าดิน ซึงจะช่วยให้ลำธารไม่ตื้นเขิน อันจะส่งผลกระ ทบไปถึงการเกิดภาวะน้ำท่วมแบบฉับพลันในบริเวณตอนล่าง และเนื่องด้วยหญ้าแฝก มีระบบรากไม่แผ่กระจายไปในแนวนอนแบบหญ้าคา ดังนั้นจึงเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วย ในการเก็บกักความชุ่มชื้นของน้ำใต้ดิน รวมทั้งช่วยสกัดกั้นธาตุอาหารมิให้ไหลลงสู่ ห้วยลำธาร ซึ่งเป็นผลดีต่อความอุดมสมบูรณ์ของดิน ตามหลักของการอนุรักษ์ดินและ น้ำที่ดีอีกประการหนึ่ง

3) ด้านป่าไม้ชายเลน กรมป่าไม้ได้ดำเนินการอนุรักษ์พื้นที่ชาย เลนและพัฒนาโครงการป่าไม้ประมง โดยการปลูกไม้โกงกางในที่ดินชายเลน เพื่อ ฟื้นฟูและศึกษาสภาพป่าชายเลน ดังงานของกรมที่ได้ดำเนินการอยู่ในโครงการ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนฯ จังหวัดจันทบุรี

2. ด้านการฟื้นฟูสภาพป่า และการปลูกป่า



ด้านการฟื้นฟูสภาพป่าโดยเฉพาะในพื้นที่ต้นน้ำลำธารนั้น กรมป่าไม้ได้นำแนวพระราชดำริมาปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม กล่าวคือ ได้ดำเนินการปลูกป่าในพื้น ที่ต้นน้ำลำธาร ซึ่งทำการปลูกโดยไม่มีการเก็บริบสุมเผา เอาวัชพืชออกบ้างเท่าที่จำเป็น และปลูกแบบไม่เป็นแถวเป็นแนว โดยทำการถากรอบโคนต้นไม้ที่ปลูกเป็นวงกลม กว้างประมาณ 50 - 100 ซม. และไม่มีการไถพรวนพื้นที่แต่อย่างใด ในพื้นที่ลาดชันมากๆ ได้นำหญ้าแฝกมาปลูกเสริมตามแนวเส้นลายขอบเขา เพื่อป้องกันการสูญเสียหน้าดิน และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับดิน พร้อมทั้งช่วยในการป้องกันภัยน้ำท่วมแบบฉับพลันอันอาจเกิดขึ้นบริเวณตอนล่างของพื้นที่ได้อีกทางหนึ่งด้วย

3. ด้านงานพัฒนาเพื่อให้คนและชุมชนอยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืน



กรมป่าไม้ได้นำแนวพระราชดำริมาเป็นแนวทางในการพิจารณาเกณฑ์ การดำเนินการ โดยเฉพาะการดำเนินการในรูปการจัด "หมู่บ้านป่าไม้" เพื่อแก้ไข ปัญหาการบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่า และเพื่อให้คนอยู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน โดยการ ดำเนินการให้บุคคลที่เข้าไปครอบครองพื้นที่ป่าไม้ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายกลาย เป็นผู้ครอบครองพื้นที่ป่าไม้โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยเสมอภาคด้วยความเป็นธรรม ในขณะเดียวกันต้องเปลี่ยนสภาพบุคคลเหล่านั้น จากผู้บุกรุกทำลายทรัพยากรป่าไม้ ให้กลายเป็นผู้อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ส่วนที่ยังเหลืออยู่ และมีส่วนเสริมสร้างฟื้นฟู สภาพป่าไม้ในพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมต่อการเกษตรกรรม


ที่มา http://www.prdnorth.in.th/The_King/king_forest_03.php#top